วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

ร่างกายมนุษย์กับศาสตร์ของท่านรอซูล

ร่างกายมนุษย์กับศาสตร์ของท่านรอซูล



                มนุษย์ คือ สิ่งถูกสร้างหนึ่งของพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุวะตะอาลา 
                พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบไปด้วยระบบต่างๆ ได้แก่ ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบไหลเวียนเลือด ระบบประสาท ระบบโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบสืบพันธุ์ แต่ละระบบทำหน้าที่เฉพาะและทำงานประสานกัน เสมือนเครื่องจักรกลเครื่องหนึ่งที่ทำงานโดยไม่มีวันหยุด




วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

นักวิทยาศาสตร์มุสลิม

 ประวัตินักวิทยาศาสตร์ ในช่วงปี ค.ศ. 370 - 1449 .
                ช่วงนี้เป็นสมัยที่มุสลิมครองความเป็นผู้นำ ดังนั้นในวงวิชาการจึงมีนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์มุสลิมเกิดขึ้มากมาย แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ยุโรปปัจจุบันพยายามที่จะปกปิด แต่ผลงานต่างๆเป็นที่ประจักแก่นักวิทยาศาสตร์ในสมัยปัจจุบัน ในสมัยนี้ยุโรปยังอยู่ในความมืดของทางวิชาการ ชาวยุโรปจึงเรียกช่วงนี้ว่ายุคมืดแห่งวิชาการ ความสว่างทางวิชาการในยุโรปจะไม่วันเกิด หากชาวยุโรปไม่ได้ตักตวงและศึกษาจากผลงานของนักวิทยาศาสตร์มุสลิมในสมัยนั้น ยุโรปเป็นหนี้บุณคุณนักวิทยาศาสตร์มุสลิมเป็นแน่แท้

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

วันอีด EID



วันอีด EID
     วันตรุษ ในอิสลามมี 2 วันคือ วันอีดฟิฎร และ วันอีดอัฎฮา จะตรงกับวันที่ 1 เดือนเชาวาล และวันอีดอัฎฮาจะตรงกับวันที่ 10 ของเดือนซุลฮิจญะฮ วันตรุษทั้ง 2 นี้ อัลลอฮได้ทรงกำหนดให้เป็นวันรื่นเริงของมุสลิม ดังหะดิษที่รายงาน โดยท่านนะซาอียจากท่านอนัส อิบนิมาลิก รฎิฯ กล่าวว่า ท่านร่อซูล (ซ.ล.) ได้เดินทางมาถึงเมืองมะดีนะฮ ก็พบว่าชาวเมืองมีวันรื่นเริงอยู่ 2 วัน ท่านร่อซูล(ซ.ล.) จึงถามว่า วันทั้ง 2 นี้เป็นวันอะไร พวกเขาตอบว่า พวกเราได้เคยรื่นเริงสนุกสนานกันใน 2  วันนี้ ในสยัมญาฮิลียะฮ. ท่านร่อซูลจึงกล่าวว่า “ แท้จริงอัลลอฮฺ ได้ทรงเปลี่ยนวันทั้ง 2  ให้แก่พวกท่าน ด้วยวันที่ดีกว่า คือ วันอีดฟิฎร และวันอีดอัฎฮา” แม้ว่าวันอีดทั้ง 2   จะเป็นวันรื่นเริงก็ตาม แต่ท่านนบีก็ได้กำหนดแบบอย่างในการปฏิบัติอิบาดะฮฺ ต่ออัลลอฮฺไว้ด้วยคือ การกล่าวตักบรี การละหมาดอีด และ การรื่นเริงนั้น จะต้องอยู่ในขอบข่ายของศาสนบัญญัติ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

10 นิสัยทำร้ายสมอง



อัสลามมูอาลัยกูมวารอฮฺมาตุ้ลลอฮฺ

เรามาดูกันน่ะค่ะว่า อะไรบ้างที่เป็นพฤติกรรมทำร้ายสมอง (เพื่อความเป็นระเบียบ เรามาเริ่มที่ข้อหนึ่งเลยน่ะค่ะ)
1.ไม่ทานอาหารเช้า นอกจากทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำแล้ว ยังเป็นเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ 



วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

ซะกาตฟิฏรฺ (ฟิฏเราะฮฺ)


ซะกาตฟิฏรฺ (ฟิฏเราะฮฺ)
1. เหตุผลหรือวิทยปัญญาในการบัญญัติซะกาตฟิฏรฺ
ซะกาตฟิฏรฺ ถูกตราเป็นบัญญัติขึ้นเพื่อเป็นสิ่งขัดเกลาและชำระล้างผู้ที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน ให้ปราศจากบาปอันเกิดจากคำพูดที่ไร้สาระและหยาบคายที่อาจเกิดขึ้นในขณะ ปฏิบัติศาสนกิจอันนี้
ทั้งยังเป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แก่ผู้ยากจนขัดสนในการบริจาคอาหาร เพื่อพวกเขาจะได้อิ่มหน่ำสำราญ ไม่ต้องขอวิงวอนจากผู้ใดในวันตรุษ(วันอีด)นั่นเอง ดังที่ได้ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในหะดีษฺที่รายงานโดยท่านอิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา ความว่า
“ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัมได้กำหนด ซะกาตฟิฏรฺเพื่อชำระผู้ถือศีลอดให้สะอาดจากคำพูดที่ไร้สาระและหยาบคาย และเพื่อเป็นอาหารแก่คนยากไร้” (รายงานโดยอบู ดาวูด และอิบนุ มาญะฮฺ)


วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

The Losers of Ramadan


Ramadan is ending soon. It will pass with all of its uniqueness and virtues. The month full of blessings and forgiveness from Allah is soon away.
Are we getting the most of it? Are we striving hard to get all the virtues in it? Are we giving our bests to live its nights? Or are we expecting to do it better next time?
But then, it might be too late. This might be our last Ramadan.
saowjana

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

No Time to Pray


I knelt to pray but not for long,

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553



10 ข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขในชีวิตมุสลิม