วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มุสลิมผู้วางรากฐานคณิตศาสตร์:Muslim Founders of Mathematic

มุสลิมผู้วางรากฐานคณิตศาสตร์:Muslim Founders of Mathematics

แปลโดย ลานา อัมรีล
ช่วงศตวรรษที่ 7-13 เป็นยุคทองของศิลปวิทยาการมุสลิม โดยเฉพาะในด้านคณิตศาสตร์ที่มุสลิม มีบทบาทอย่างสูง พวกขาคิดค้นระบบจุดทศนิยมและสูตรพื้นฐานของคณิตศาสตร์ทั้งการบวก ลบ คูณ หาร ยกกำลัง และถอดราก นอกจากนี้ชาวมุสลิมยังเป็นผู้คิดค้นเลขศูนย์ (0) ขึ้นมา
ยอดนักคณิตศาสตร์มุสลิม ได้แก่:
อัล-ควาริศมี (ค.ศ.780-850)
เป็น บิดาแห่งพีชคณิตเขาเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชื่อก้อง คอลีฟะฮ์อัล-มะอ์มูน (Al-Ma’Mun ค.ศ.786-833) เป็นผู้เรียกตัวเขาเข้าแบกแดด แล้วแต่งตั้งให้เป็นนักดาราศาสตร์แห่งราชสำนัก
คำว่า อัลจีบรา” (Algebra พีชคณิต) มาจากชื่อตำราคณิตศาสตร์เล่มโด่งดังของอัล-ควาริศมี ฮิซาบ อัล-จับบัร วาอัล-มุฆบาลา (Hisab Al-Jabr Mugabalah หรือ Book of Calculations, Restoration, and Reduction) ตำราคณิตศาสตร์ฉบับแปลภาษาละตินของเขาเล่มนี้ถูกค้นพบในปีค.ศ.1857 ที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ชื่อว่า ‘Algoritimi de Numero Indorum’ หน้าแรกของหนังสือเขียนว่า อัลกอริธมีกล่าวว่า มวลการสรรเสริญเป็นของพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำและพิทักษ์เรา” (Spoken has Algoritimi. Let us give deserved praise to God, our Leader, and Defender) ซึ่งคาดว่าในฉบับภาษาอาหรับอัล-ควาริศมีได้เริ่มหน้าแรกของหนังสือเพียงว่า บิสมิลลาฮิรฺรอฮฺมานิรฺรอฮีมแปลว่า มวลการสรรเสริญเป็นของพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำและพิทักษ์เราซึ่ง เป็นคำกล่าวของมุสลิมทุกคนเมื่อเริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่เมื่อชาวคริสเตียนแปลหนังสือออกมา ย่อมต้องบอกว่าอัล-ควาริศมีเป็นผู้กล่าวคำสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าของชาว มุสลิม ไม่ใช่ตนเป็นคนกล่าว
อัลควาริศมีทิ้งชื่อของเขาไว้ในโลกคณิตศาสตร์คือคำว่า อัลกอริธึม’ (Algorism) ซึ่งเป็นชื่อเก่าของคำว่า ‘arithmatic’ หรือ เลขคณิต
อัล-ควาริศมีเน้นว่าเขาเขียนตำราพีชคณิตเพื่อประโยชน์ของผู้คนในด้านการคำนวณมรดก คดีความ และด้านการค้า
ในศตวรรษที่ 12 เจอราดแห่งครีโมนา (Gerard of Cremona) และโรเบิร์ตแห่งเชสเตอร์ (Roberts of Chester) แปลตำราพีชคณิตของอัล-ควาริศมีเป็นภาษาละติน นักคณิตศาสตร์ทั่วโลกใช้ตำรานี้กันจนหระทั่งศตวรรษที่ 16
เชื่อกันว่าอัล-ควาริศมีเกิดในปีค.ศ.780 ที่เมือง Kath ในโอเอซิสแห่ง Khorzen ปัจจุบันเมือง Kath ถูกฝังใต้แผ่นดินไปแล้ว
เกิด ในปี 801 ที่เมืองคูฟา ช่วงที่พ่อเขาดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง นามสกุลของเขาบ่งชี้ว่าอัล-คินดีสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์คินดาฮ์แห่งเยเมน
อัล-คินดีถูกเรียกว่า ฟัยลาซุฟ อัล-อาหรับ หรือ นักปรัชญาอาหรับ คนแรกในอิสลาม
เขาเขียนตำราคณิตศาสตร์ 11 เล่มเกี่ยวกับทฤษฎีจำนวนและการวิเคราะห์ตัวเลข
อัล-การาจี หรือ อัล-การ์คกี (ค.ศ. 953-1029)
เขาเกิดในเมืองการ์ค (Kharkh) ชานกรุงแบกแดด งานเขียนของเขามีทั้งเลขคณิต พีชคณิต และเรขาคณิต
หนังสือ Al-Kafi fi'l-hisab หรือ Sufficient on calculation อัล-การาจีเขียนเกี่ยวกับเลขคณิต ถูกแปลเป็นภาษาเยอรมันโดย Ad. Hochheim ส่วนตำราเล่มที่สอง Al-Fakhri fi'l-jabr wa'l-muqabala หรือ Glorious on algebra เป็น หนังสือด้านพีชคณิตซึ่งเขาเขียนถวายกาหลิบแห่งแบกแดด อัล-การาจีตั้งชื่อหนังสือจากชื่อเพื่อนของเขาซึ่งเป็นอัครมหาเสนาบดีของ แบกแดดในขณะนั้น
เขาเป็น บิดาแห่งตรีโกณมิติ เกิดที่เมืองฮาราน (Harran) ใกล้อุรฟา เมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันอยู่ในตุรกี) และเสียชีวิตในปี 929 ที่เมืองดามัสกัส ซีเรีย เขาถือเป็นนักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกมุสลิม
เขาเป็นผู้ยกระดับศาสตร์ด้านตรีโกณมิติให้มีสถานะสูงขึ้น และเป็นคนแรกที่คำนวณตาราง cot (cotangent)
 อัล-ไบรูนี  (ค.ศ.973-1050)
อัล-ไบ รูนีเป็นหนึ่งในนักคณิตศาสตร์ที่วางรากฐานตรีโกณมิติสมัยใหม่ เป็นทั้งนักปรัชญา นักภูมิศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักฟิสิกส์ และนักคณิตศาสตร์
อัล-ไบรูนีบอกว่าโลกหมุนรอบแกนของตัวเองก่อนหน้ากาลิเลโอ (Galileo Galilei ค.ศ.1564–1642, นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องชาวอิตาเลียน) จะค้นพบถึง 600 ปี
อัล-ไบรูนีคำนวณวัดพื้นผิวโลก และคำนวณเส้นรอบวงของโลกด้วยวิธีที่บ่งถึงอัจฉริยภาพ เขาคำนวณค่าเส้นรอบวงของโลกได้ 6,339.9 กม. น้อยกว่าค่าที่เราหาได้ในปัจจุบัน (6,356.7 กม.) เพียง 16.8 กม.เท่านั้น!!!
เขาสามารถคำนวณหาทิศกิบลัตได้จากทุกเมืองทั่วโลกโดยใช้การคำนวณทางคณิตศาสตร์เข้าช่วย
นักคณิตศาสตร์มุสลิมโดดเด่นด้านตรีโกณมิติ สูตรของฟังก์ชันต่างๆ ทั้งซายน์ (sine) โคซายน์ (cosine) และแทนเจน (Tangent) ได้รับการพัฒนาโดยนักคณิตศาสตร์มุสลิมในช่วงศตวรรษที่ 10
นอก จากนี้แล้ว นักคณิตศาสตร์มุสลิมยังศึกษาอย่างหนักในการพัฒนาตรีโกณมิติแบบพื้นผิวเรียบ และพื้นผิวโค้ง และแม้ตรีโกณมิติของชาวมุสลิมจะมีพื้นฐานมาจากทฤษฎีของปโตเลมี แต่พวกเขาพัฒนาจนเหนือกว่า โดยเฉพาะสองด้านเด่นๆ คือ ชาวมุสลิมใช้ฟังก์ชัน sine แทน chord และใช้พีชคณิตแทนเรขาคณิต.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น