วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

อิสลามคือแนวทางการำรงชีวิต

นิทาน 3 สหาย
เรือใบลำใหญ่ กำลังแล่นอยู่ทามกลางมหาสมุทรอันกวางใหญ่ ทันใดนั้นก็มีพายุเคลื่อนตัวเข้ามาพร้อมๆกับคลื่นยักลูกใหญ่และได้ทวีความรุนแรงเข้ามาไก้ขึ้นทุกที  ภายในเรือลำนี้มี 3 สหาย ที่ประกอบด้วย นายอิสลาม นายความสุข และนายรุ่งเรือง ทั้งสามคนกำลังตกอยู่ในสภาวะที่อันตราย  ทั้งสามคนต่างเป็นสหายที่รักกัมากแต่การเดินทางครั้งนี้จำเป็นต้องมีใครสักคนเสียสละชีวิตลงจากเรือไป เพื่อให้เรือสามารถลอยำสูุ่ดหมายอยางปลอดภัย
ชั่วพริบตาเดียว...เมฆก้อนใหญ่รวมตัวปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิทและคลืนยักษ์กำลังถาโถมเข้ามาเกือบถึงเรือำนี้ในอีกไม่กีวินาทีข้างหน้า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่มีใครบางคนอยู่และใครบางคนต้องกระโดดลงจากเรือไป...
นายอิสลามพูดขึ้นมาว่า  "เราจะเป็นคนแรกที่จะกระโดดลงจากเรือไป เพื่อนายทั้งสองจะได้มีชีวิตอบู่บนเรืออยางปลอดภัย
นายความสุขได้ยินเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า "นายคิดีแล้วหรอ.. ถ้าเรือลำนี้ขาดเสาหลักอย่างนายไป มันจะแล่นต่อไปได้นานแค่ไหน เราอยู่ไม่ได้โดยไม่มีนาย ความสุขคงจะไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง คงเป็นแค่ความสุขจอมปอมแน่นอน
นายรุ่งเรืองได้ยินเช่นนั้นึงรีบพูดขึ้นว่า  "เราว่านายอิสลามพูดถูกต้องแล้วนะ เรือลำนี้ต้องเดินทางอีกไกล ต้องเจริญก้าวหน้าอีกเยอะ นายเป็นพวกหัวโบราณ อยู่ไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก
นายความสุขไม่พอใจที่นายรุ่งเรืองพูดดูหมิ่นนายอิสลามเช่นนั้น จึ่งพูดขึ้นว่า "นายนั้นแหละที่มีค่ากับเรือลำนี้น้อยที่สุด ไม่จำเป็นต้องมีนาย เราก็อยู่อย่างสงบและพอเพียง ได้"
 ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้ นายอิสลามจึงพูดขึ้นว่า " เราเข้าใจว่านายทั้งสองต่างมีคุณค่ากับเรือลำนี้แตกต่างกันไป นายความสุขก็เติมเต็มรอยยิมแะเสียงหัวเราะ  ส่วนนายรุ่งเรืองก็สร้างความมั่งคังรำรวยให้เรือลำนี้ได้กินดีอยู่ดีมาโดยตลอด ส่วนตัวเราเอง คงเป็นแค่เสาหลักเก่าๆที่ไม่คอยมีใครเห็นคุณค่า หลายคนรู้จัก แต่ไมเคยเข้าใจ หลายคนเลื่อมใสแต่ไม่เคยศรัทธา..."
ไม่ทันที่นายอิสลามจะพูดจบ คลืนยักษ์ก็โถมกระหน่ำเข้าใส่เรือใบในชั่วพริบตา ลำเรือคอยๆเอียงสู่ใต้ท้องน้ำ นายรุ่งเรืองเห็นถ้าไม่คอยดี จึงตัดสินใจผลักนายอิสลาม ตกลงทะเลไป 

 ด้วยนำ้หนักที่น้อยลงทำให้เรือใบค่อยๆเอียงกลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง และสามารถแล่นต่อไปได้...แต่ก็ยังโคลงเคลง หยุดๆจอดๆเป็นระยะ เพราะความไม่ลงรอยกันระหว่างนายความสุขกับนายรุ่งเรื่อง
นายความสุขก็มัวแต่เฮฮ่่า ไรสาระ เพราะขาดเสาหลักยึดเหนี่บวจิตใจอย่างนายอิสลาม ความสุขที่เกิดขึ้นจึงเป็นแต่ภาพลวงตา หาคุณค่าไม่ได้  ส่วนนายรุ่งเรื่องก็เริ่มขาดความซื่อสัตย์และความเป็นธรรม โกงกินทุกวิธีทาง กอบโกยผลประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ่นสุด เรือลำนี้กำลังแล่นออกจากจุดมุ้งหมายไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าชะตากรรมข้างหน้าจะเ็ป็นเช่นไร
ผ่านไปไม่นาน ความปั่นป่วนก็เกิดขึ้นบนเรืออย่างไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดเรือใบลำนี้ก็ไม่สามารถแล่นต่อไปได้ และอับปางลงในที่สุด
หางจากทะเลไปไม่ไกล...มีเกาะเล็กอยู่เกาะหนึ่ง ผู้คนที่นี้มีวิธีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยเคารพบูชาผัสางเทวดา ก็เริ่มใช้สติปัญญาเรียนรู้ถึงการมีอยู่ของพรัผู้เป็นเจ้า อัลลอฮฺ เชื่อว่าอัลลอฮฺเป็นเจ้าแห่งสากลโลกและเลิกพิธีกรรมบูชาเจว็ด มาปฏิบัติการละหมาดเพื่อขอบคุณพระองค์ที่ได้ให้แนวทางที่เที้ยงตรงแก่พวกเขาตั้งแต่นายอิสลามถูกพัดมาติดที่เกาะนี้  หลายสิ่งหายอย่างที่นี้ เปลี่ยนแปลงไป สร่างความปลาบปลี้มใจให้กับคนบนเกาะเป็นอย่างมาก 
เมื่อความเป็นอิสลามไปอยู่ ณ แห่งหน ตำบลใด ความศิวิไลย่อมเกิดขึ้น ผู้คนอยู่กันอย่างมีความสุข เป็นควาวมสุขเพื่อพระเจ้าที่จีรังยั่งยืนจนไม่อาจประเมินค่าได้ และอีกไม่นานความรุ่งเรืองก็จะตามมาโดยไร้ซึ้งความหายนะอย่างที่เคยประสบกัยเรือใบในคราวที่ ไร้ซึ้งนายอิสลาม 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
หากไม่มีอิสลาม เราคงอยู่ไม่ได้ เหมื่อนกับเรือใบที่สักวันต้องอัปปางลง
จงมีชีวิตอยู่เพื่ออิสลาม เราจะพบความสุขและความรุ่งเรืองที่แท้จริง
ขอขอบคุณ skk_angro สำหรับนิท่านดีๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น